วันอาทิตย์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2560

เกาะช้าง 2 วัน 1 คืน

1 ปกเกาะช้าง

09.00 น.  เริ่มต้นเดินทางไปยังเกาะช้าง ที่ท่าเรือ อ่าวธรรมชาติ
หากมีรถส่วนตัว เราสามารถนำรถขึ้นเรือเฟอรี่ข้ามเกาะไปเที่ยวกับเราได้ เรามาถึงท่าเรือกันแต่เช้าประมาณ 9 โมงกว่า ท่าเรือเฟอรี่ที่ข้ามไปเกาะช้าง หลัก ๆ มี 2 แห่ง คือ ท่าเรือเซ็นเตอร์พอยท์ และท่าเรืออ่าวธรรมชาติ เราเลือกไปยังท่าเรืออ่าวธรรมชาติ เพราะเรือจะเร็วกว่า คือ ใช้เวลาเดินทางไปยังเกาะช้างประมาณ 30 นาที เรือออกทุกชั่วโมง ค่าโดยสารคนละ 80 บาท/เที่ยว (ไป-กลับ 160) ค่านำรถลงเรือจ่ายเพิ่มอีกคันละ 120 บาท/เที่ยว (ไป-กลับ 240) แต่สำหรับใครที่ไม่มีรถส่วนตัวสามารถนั่งรถทัวร์จากเอกมัยมาต่อสองแถวในตัวเมืองไปยังท่าเรือได้ หรือนั่งรถตู้มาจากกรุงเทพ (อนุสาวรีย์ชัยฯ ฝั่งพญาไท) มีรถตู้ไปส่งถึงท่าเรือฯ ด้วย แต่ต้องแจ้งคนขับให้ทราบ จากนั้น ที่ท่าเรือบนเกาะช้าง มีรถสองแถวที่ให้บริการตรงท่าเรือไปยังหาดต่างๆ สะดวกมากเช่นกัน ราคาค่าโดยสาร 50 – 120 บาท แล้วแต่ระยะทาง หรือจะเหมาทั้งคันก็ได้ แต่ราคาจะสูงขึ้นมาด้วย

1

10.00  น. จากท่าเรืออ่าวสับปะรด เกาะช้าง  ไปหาดทรายขาว
มาถึงท่าเรือแล้วเราเลี้ยวไปทางขวาเพื่อไปยังเกาะช้างฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นจุดศูนย์กลางท่องเที่ยวเกาะช้าง  ไม่ไกลจากท่าเรือมีปั้มน้ำมัน ป ต ท เป็นปั้มแห่งเดียวบนเกาะ ที่เหลือจะเป็นแบบที่ขายน้ำมันหลอดเล็กๆ  ก็เติมจากตรงนี้ได้ เพราะถนนหนทางบนเกาะช้างยาวมากโดยเฉพาะถ้าไปถึงไปอ่าวบางเบ้าระยะทางไกลพอสมควร ใช้เวลาเดินทางชั่วโมงกว่าเกือบสองชั่วโมง  แต่เพื่อความสบายใจเติมมาจากฝั่งเลยจะดีกว่า  จากท่าเรือผ่านถนนลาดยางที่คดเคี้ยว และมีชันหักศอกในบางช่วง  ขับรถมาประมาณ 20 นาที  ก็เริ่มเข้าสู่เขตพื้นที่ชุมชนซึ่งเป็นที่ตั้งของหาดทรายขาว  หาดที่มีบรรยากาศคึกคักที่สุดบนเกาะช้าง เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้าง ที่พัก ร้านค้า ห้างขนาดเล็ก  ร้านอาหารเรียงรายไปตลอดสองฝั่งท้องถนน   หากเรียงลำดับหาดฝั่งตะวันตกที่ถึงก่อนหลังจากท่าเรือ คือ  อ่าวคลองสน หาดทรายขาว หาดคลองพร้าว  หาดไก่แบ้  หาดโลนลี่บีช  และอ่าวบางเบ้าซึ่งอยู่ไกลสุด

2 DSC_3243

หน้าตาของหาดทรายขาว  โดยส่วนตัวสำหรับทะเลและหาดทรายบนเกาะช้างเท่าที่เห็นคือ น้ำอาจไม่ได้ใสหรือหาดทรายขาวมาก เป็นเกาะที่เน้นมาพักผ่อนริมทะเล ประมาณนี้มากกว่า


11.00 น. จุดชมวิวหาดไก่แบ้
จากหาดทรายขาว ผ่านหาดคลองพร้าว และหาดไก่เบ้ มาถึงอีกหนึ่งไฮไลท์ ที่ไม่ควรพลาด นั่นคือ จุดชมวิวหาดไก่แบ้  เราจะเห็นตู้ไปรษณีย์รูปจรวดสีแดงโดดเด่นตัดกับสีฟ้าของน้ำทะเล รวมถึงป้ายชื่อ จังหวัดตราดขนาดใหญ่


เป็นจุดชมวิวที่สามารถชมความงามของทะเลสีฟ้าไล่สีของหาดไก่แบ้ และวิวทิวทัศน์ของเกาะที่เรียงรายกัน 3 เกาะพร้อมกัน คือ เกาะมันนอก เกาะมันใน และเกาะหยวก  ชื่อเกาะมันอาจคล้ายกับระยองแต่เป็นคนละเกาะกัน


จากจุดชมวิวเกิดอาการหิวน้ำเลยขับรถเข้ามาเห็นชื่อ ไก่แบ้ รีสอร์ท มีทางเลี้ยวเข้าไปยังชายหาด เพื่อหวังจะนั่งพักจิบน้ำปั่นเย็นๆ และชมหาดไก่แบ้ไปด้วย ทั้งหมด คือ บรรยากาศของหาดหน้าที่พักไก่แบ้  รีสอร์ท ซึ่งเรามาอาศัยนั่งพักชั่วคราว


13.00 น. เช็คอินเข้าที่พัก ปาจามัส โฮสเทล  
เราจบการเดินทางที่หาดไก่แบ้ ขับรถย้อนกลับหาดคลองพร้าว เข้าที่พักเพื่อพักผ่อน ที่พักบนเกาะช้างมีให้เลือกเยอะมาก ตั้งแต่หลักร้อยถึงหลักหมื่น ถ้าราคาหลักร้อยจะอยู่ไปสุดปลายเกาะซักหน่อย หรืออาจอยู่ฝั่งภูเขา หรือถ้าอยู่ในหาดที่เดินทางสะดวกอย่าง หาดทรายขาว ไก่แบ้ และคลองพร้าว ก็จะไม่ติดหาดหรือเป็นแบบโฮมสเตย์ ที่พักของเราในคืนนี้อยู่ติดถนน ไม่ติดทะเล แต่อยู่ใกล้กับหาดคลองพร้าวห่างจากทะเลนิดเดียว เป็นที่พักแบบโฮสเทล เหมาะสำหรับแบคแพคเกอร์ ราคาคนประมาณ 400-600 บาท นอกจากนี้ยังมีห้องพักเป็นแบบห้องส่วนตัว Double deluxe เห็นภาพในอินเทอร์เน็ต คือ ชอบสไตล์การตกแต่ง ฮิป ๆ เก๋ ๆ และอยู่ใกล้แหลมไชยเชษฐ์จุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่ตั้งใจจะไป ราคาห้องพัก 2600 บาท พักได้ 2 คน รวมอาหารเช้า บริเวณของที่พักไม่กว้างมาก เป็นลักษณะตึกปูนสีขาว 2 ชั้น สไตล์เมดิเตอร์เรเนียนเรียงกัน มีสระว่ายน้ำอยู่ตรงกลาง
จองที่พักปาจามัส เกาะช้าง คลิ๊ก ปาจามัส เกาะช้าง 

21 DEW_9285
22 DEW_9283
23 DEW_9284

พื้นที่ส่วนกลางตกแต่งให้เหมือนเรานั่งเล่นอยู่ในบ้าน ตามสไตล์ของที่พักโฮสเทล แต่โซนนี้ลูกค้าบางคนก็จะนั่งสูบบุหรี่มีกลิ่นควันเข้ามาตลอด เลยไม่ได้มานั่งเท่าไหร่เพราะแพ้ควันบุหรี่ ส่วนกลางคืนก็จะพลุกพล่าน มีปาร์ตี้สังสรรค์ ร้องเพลงเสียงดัง ซึ่งที่พักแนวโฮสเทลจะฟีลประมาณนี้ สำหรับคนที่ชื่นชอบความเป็นส่วนตัว อยากได้อารมณ์พักผ่อนจริงๆ ที่นี่อาจไม่เหมาะ ส่วนเราเองเวลาส่วนใหญ่เน้นไปกับการตะลอนเที่ยวไม่ค่อยอยู่ที่พักมากเท่าไหร่

24

ภายในห้องพักกว้างพอสมควร สิ่งอำนวยความสะดวกครบ ทั้งแอร์ ทีวี ตู้เย็น ห้องน้ำก็กว้างขวาง มีระเบียงยื่นออกไปให้นั่งชมวิว จะเห็นว่าที่พักตั้งอยู่ไม่ไกลจากหาด เดินไปประมาณแค่ 200 เมตร
25

จากที่พักเราเดินเล่นไปชมบรรยากาศของหาดคลองพร้าว ซึ่งหน้าตาและบรรยากาศก็ไม่ต่างกับหาดทรายขาวมาก ตัดสินใจกลับมานอนพักยังที่พักซักครู่เพื่อรอไปชมพระอาทิตย์ตกที่แหลมไชยเชษฐ์ตามที่เพลนไว้

26 DEW_9259
27 DEW_9260

16.00 น. ชมพระอาทิตย์ตกแหลมไชยเชษฐ์
บ่ายแก่ๆ ได้เวลาไปชมพระอาทิตยตกแล้ว  แหลมไชยเชษฐ์ ตั้งอยู่ด้านหลังของไชยเชษฐ์ รีสอร์ท เรียกได้ว่าเป็นพื้นที่ส่วนบุคคล การที่เราจะไปที่นั่นได้คือ จอดรถไว้ที่ไชยเษฐ์ รีสอร์ท แล้วเดินไปนิดเดียว แต่เราบังเอิญเลี้ยวเข้ามาตามป้ายรีสอร์ทแล้วไปจอดผิด มาจอดที่โคโคนัทบีช  ซึ่งตั้งอยู่ติดกัน เห็นบรรยากาศริมทะเลแถมลมพัดเย็นสบายน่านั่งเล่นมาก มองนาฬิกายังไม่ถึงเวลาเย็นมากเลยสั่งแตงโมปั่นดับร้อนกินบรรยากาศซักหน่อย ถ้าใครชอบที่พักบรรยากาศสบายติดหาดคลองพร้าว โคโคนัทบีช ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีมาก  สอบถามราคาเริ่มต้นที่คืนละ 2000 กว่าบาทเท่านั้นเอง ซึ่งเป็นเรทราคาปกติของที่พักติดหาดของเกาะช้าง
จองที่พักโคโคนัทบีชเกาะช้าง  คลิ๊ก  โคโคนัทบีชเกาะช้าง 

28 DEW_9278
29 DEW_9282

ห้าโมงกว่าเดินไปไชยเชษฐ์ รีสอร์ทซึ่งอยู่ติดกัน  จากนั้นเดินไปทางด้านหลังรีสอร์ทนิดเดียวจะเจอ แหลมแหลมไชยเชษฐ์  มีการทำบันไดเชื่อมต่อกัน จากหินก้อนนั้นไปยังก่อนนี้  ถึงแม้เป็นพื้นที่ส่วนบุคคลแต่ทางรีสอร์ทไม่ได้หวงมากขนาดกั้นไม่ให้นักท่องเที่ยวที่ไม่ใช่ลูกค้าเข้าไปถ่ายภาพ


แหลมไชยเชษฐ์  ตั้งอยู่ใกล้กับหาดคลองพร้าว เป็นแหลมหินที่ยื่นออกไปในทะเล มีทัศนียภาพสวยงาม  ด้านหน้าสุดของแหลมมีแท่งหินตรงยาวโดดเด่น รายล้อมด้วยก้อนหินแปลกตา ที่นี่ถือว่าเป็นอีกหนึ่งจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามอีกจุดหนึ่งของเกาะช้าง


พระอาทิตย์ดวงกลมโตกำลังลับขอบฟ้า  ท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนสีเป็นสีทอง


นั่งมองพระอาทิตย์ค่อยเลือนหายไปในพื้นน้ำ เป็นอีกหนึ่งภาพบรรยากาศของพระอาทิตย์ตกที่แสนประทับใจของการมาเที่ยวเกาะช้าง


19.00 น.  อาหารค่ำมื้ออร่อยที่ ร้านภูทะเลซีฟู้ด

ค่ำนี้เราฝากท้องไว้ที่ ร้านภูทะเล ซีฟู้ด  เป็นร้านอาหารที่บรรยากาศดี  รสชาติอร่อย และราคาไม่แพง ตั้งอยู่ที่หาดคลองพร้าว  ไม่ไกลจากที่พักของเรา  ใช้เวลาเดินทางประมาณ  10 นาที  ในซอยเดียวกับอาน่า  รีสอร์ท เป็นร้านที่ตั้งอยู่ติดคลองพร้าว ร้านตกแต่งธีมทะเล โทนสีฟ้าขาว มีที่นั่งทานอาหารหลายโต๊ะ

39 DSC_3199
40 DSC_3188
41 DSC_3193

เมนูอาหาร เราสั่งข้าวผัดกุ้ง หอยนางรมสด  และส้มตำปูม้า ปลาลวกพร้อมน้ำจิ้มถั่วตัด ถ้าพูดถึงในเรื่องของบรรยากาศสอบผ่านไปแล้ว ส่วนรสชาติอาหารอร่อยทุกเมนู ราคาไม่แพงมากเหมือนร้านอาหารส่วนใหญ่บนเกาะ และพนักงานบริการดีมาก  สรุปว่า ดีเลิศทุกอย่าง มาเกาะช้างแนะนำต้องมาทานร้านนี้  มิควรพลาดเป็นอย่างยิ่ง

42

นอกจากร้านอาหารแล้วยังเปิดให้บริการที่พักด้วย ชื่อว่า บ้านทะเล อยู่ติดกับร้านอาหารตกแต่งออกแนววินเทจ  มีที่นั่งเล่นนอกชานติดริมน้ำคล้ายบ้านพักโฮมสเตย์แถวริมคลองอัมพวา แต่บรรยากาศสงบกว่า

43 DSC_3200
44 DSC_3215
45 DSC_3206
46 DSC_3204

เราขอเข้าไปชมห้องพักซึ่งมีอยู่ประมาณ 6 ห้อง ภาพที่ลอยเข้ามาในจินตนาการตอนแรกคือ คงเป็นแบบฟูกปูนอนเหมือนโฮมสเตย์ แต่ไม่ใช่ค่ะ เปิดเข้าไปปุ๊บถึงกับอึ้ง  แต่งได้โมเดิรน์น่าพัก  ห้องกว้างขวางสิ่งอำนวยความสะดวกครบ  ทั้งแอร์ ทีวี ห้องน้ำในตัว ในราคาห้องละ 1800 บาท เท่านั้น ถือว่าราคาไม่แรงมากเมื่อเทียบกับบรรยากาศ และแม้ไม่ได้ติดทะเลโดยตรงแต่ ก็ติดริมน้ำพายเรือออกไปนิดเดียวก็จะเจอหาดคลองพร้าว บรรยากาศรอบบ้านชิลมาก  สงบใช่เลย ที่สำคัญอาหารอร่อยมาก มาเกาะช้างครั้งหน้าตั้งใจไว้แล้วจะมาพักที่นี่แน่นอน

47 บ้านทะเล

วันที่สอง 08.00 น.  ป่าชายเลนบ้านนาใน อ่าวสลักเพชร
เราเช็คเอาท์ออกจากที่พักตั้งแต่ 8 โมง  ขับรถมุ่งหน้าไปยังเกาะช้างฝั่งตะวันออก จนสุดปลายเกาะ ที่อ่าวสลักเพชร จากหาดคลองพร้าวไปยังป่าชายเลนบ้านนาใน ใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชั่วโมงกว่า เส้นทางฝั่งเกาะช้างตะวันออก ขับค่อนข้างง่ายกว่าฝั่งตะวันตก  เป็นถนนลาดยาง เส้นทางราบเรียบไม่ชันมาก เต็มที่แค่โค้งนิดหน่อยบางช่วง ทะเลด้านนี้ค่อนข้างสงบและไม่ค่อยมีหาดทราย ส่วนใหญ่เป็นหาดหินและพื้นที่ป่าชายเลน ตลอดเส้นทางเราจะเห็น หมู่บ้านของชาวเกาะช้างดั้งเดิมอาศัยอยู่เป็นระยะ รวมถึงสวนผลไม้ ทุเรียน เงาะ และยางพารา สถานที่ราชการต่างๆอยู่ฝั่งนี้ทั้งหมดตั้งแต่ โรงพยาบาล สถานีตำรวจ ที่ว่าการอำเภอ  ป่าชายเลยบ้านนาในตั้งอยู่เส้นทางเดียวกับวัดสลักเพชร โดยเมื่อมาถึงวัด ให้ขับเลยพระอุโบสถไปทางด้านซ้ายมือ  จะเจอซอยทางเข้าแล้วก็ให้ขับตรงไปเรื่อยๆ เส้นทางแคบและเป็นดินแดงลูกรังในบางช่วง ถ้ามาในช่วงหน้าแล้ง รถทุกชนิดสามารถเข้าไปได้หมด  แต่ถ้ามาในช่วงหน้าฝนรถกระบะน่าจะเหมาะที่สุด
ป.ล. การใช้  Google map จะพามาหยุดที่วัดสลักเพชรถ้าให้นำทางไปต่อจะดูงงๆเล็กน้อย  อย่างไรสอบถามชาวบ้านในละแวกนั้นได้ เพราะจะไม่มีป้ายบอกทางที่ชัดเจน


ป่าชายเลนบ้านนาใน เป็นโครงการฟื้นฟูบูรณะป่าชายเลนบ้านสลักเพชร ตั้งอยู่ที่อ่าวสลักเพชร   เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติและระบบนิเวศป่าชายเลน ซึ่งได้จัดทำเป็นสะพานไม้ที่ทอดยาวเพื่อชมความสวยงามของป่าโกงกาง ตลอดสองข้างทาง ในระยะทางราว 2 กิโลเมตร บรรยากาศของป่าชายเลนในปัจจุบันถึงแม้จะดูทรุดโทรมสะพานไม้บางช่วงเริ่มผุและเริ่มเปลี่ยนสีไปบ้าง แต่ทว่าตลอดระยะทางที่ได้เดินผ่านเราจะได้ตื่นตาตื่นใจไปกับกิ่งก้านของต้นไม้รูปร่างแปลกตา ที่มีลักษณะโน้มเอียงเข้าหากันเป็นซุ้มสวยงาม


เมื่อเราเดินมาจนเกือบถึงกลางทาง เป็นจุดไฮไลท์ที่มีทุ่งโปรงทองค่อนข้างสวยงาม มีอาณาบริเวณกว้าง ประกอบกับฉากหลังที่เป็นทิวเขาทอดยาว และจุดนี้สะพานไม้สีแดงยังไม่ซีดจางเท่าใดนัก สีแดงของสะพานตัดกับสีเขียวของต้นไม้ ทำให้บริเวณนี้เป็นจุดที่สวยงามแปลกตาเมื่อได้พบเห็น


เมื่อไปถึงสุดทางจะพบกับปากอ่าวเชื่อมต่อกับทะเล ชมทัศนียภาพสวยงาม แบบพาโนรามา นั่งเล่นรับลมเย็นสูดอากาศบริสุทธิ์


เวลาเกือบเที่ยงได้เวลากลับฝั่ง  เที่ยวเกาะช้าง 2 วัน 1 คืน ไม่เหนื่อยอย่างที่คิด แวะเที่ยวได้หลายจุด เเพลนทริปนี้ต้องเรียกว่าเที่ยวแบบเบามากแค่นี้ก็ถือว่าคุ้มเกินพอ  แต่ยังไม่ได้แวะไป บางหาด เช่นหาดโลนลี่บีช อ่าวบางเบ้า หมู่บ้านสลักเพชร และน้ำตกที่สำคัญบนเกาะ เพราะพิจารณาแล้วแต่ละเส้นทางถ้าแวะคงต้องใช้เวลาพอสมควร ไว้คราวหน้าจะกลับมาเที่ยวใหม่นะ เกาะช้าง


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น